ncds

 

สร้างภูมิคุ้มกัน เกราะป้องกัน 5 โรค ในกลุ่มโรค NCDs

     กลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable diseases) ???

หลายคนอาจไม่รู้จัก กลุ่มโรคนี้ มันคือโรคอะไร  หรือ กำลัง งง ? อยู่ว่า เป็นกลุ่มโรคใหม่หรือเปล่า อันที่จริง ชื่อภาษาไทยเรียกว่า “กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” เป็นชื่อเรียก กลุ่มโรคที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไม่สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัส คลุกคลี หรือ ติดต่อผ่านตัวนำโรค (พาหะ) หรือสารคัดหลั่งต่างๆ หากแต่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ภายในร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากไลฟ์สไตล์วิธีการใช้ชีวิต ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่าง เหล้า บุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย อาหารหวานมันเค็มจัด และมีความเครียดนั้นเอง

 

ncds 2

 

สำหรับประเทศไทยเอง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก(WHO) สถิติล่าสุดพบว่ามีถึง 14 ล้านคนที่เป็นโรค ในกลุ่มโรค NCDs และที่สำคัญยังถือเป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตของ ประชากรทั้งประเทศ โดยจากสถิติปี พ.ศ. 2552 พบว่า มีประชากรเสีย ชีวิต จากกลุ่มโรค NCDs มากกว่า 300,000 คน หรือ คิดเป็น 73% ของการเสียชีวิต ของประชากรไทยทั้งหมดในปี 2552 แสดงว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตมากกว่าค่าเฉลี่ย ของทั้งโลกและมีแนวโน้มจะสูงขึ้น เรื่อยๆ ในอนาคต ซึ่งโรคในกลุ่ม โรค NCDs ที่มีอัตราผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงสุด 6 โรค ได้แก่

  • โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
  • โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ (Cardiovascular & Cerebrovascular Diseases )
  • โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema)
  • โรคมะเร็ง (Cancer)
  • โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
  • โรคอ้วนลงพุง (Obesity)

 

อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า สาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงหลักนั้น เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงของตัวเราเอง ทั้งนั้น รวมถึงอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพวกนี้ก็คือ การที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำงานผิดปกติ นั้นเอง เมื่อระบบคุ้มกันของร่างกายผิดปกติไป ความสมดุลของร่างกายก็แย่ลง เกิดความความเหนื่อยล้า เหนื่อยง่าย หมดพลัง

ปัจจุบันนี้ อาการเหนื่อยล้า เหนื่อยง่าย ขาดความสมดุลในร่างกายนั้น ยังไม่มีวิธีการรักษาที่หายขาดได้ โดยแพทย์ทั่วไปสามารถทำได้เพียงการรักษาตามอาการ เท่านั้น จนเมื่อปีที่แล้วกระแสสมุนไพร รักษาโรคร้าย มีสรรพคุณทางยาเลิศ ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน อย่าง “ถั่งเช่า” บูม!!ขึ้น คนเริ่มหาชื้อ แต่ราคาค่อนข้างสูงมาก ซึ่งคนลากหญ้า ฐานะธรรมดาแบบเราๆ คงเอื้อมไม่ถึงแน่นอน กิโลละเป็นล้านบาท จึงได้มีงานวิจัยทางการแพทย์จากหลายสถาบัน ในการวิจัยเพาะ “ถั่งเช่า”  ขึ้นมาเอง จนสำเร็จและยืนยันว่า “ถั่งเช่า” อุดมไปด้วยสารต่างๆ ที่มีประโยชน์ในการป้องกันโรคได้จริง ซึ่งมีสารที่มีประโยชน์มากมาย ได้แก่

 

f4fd24000ef4f0ae0c9917aac2578bd0_m

  •    สาร Cordycepin ในถั่งเช่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิต ช่วยต้านแบคทีเรียที่ก่อโรค
  •    สาร Cordycepic Acid ในถั่งเช่า ช่วยเพิ่ม metabolism ของร่างกาย ทำให้ร่างกายมีพลัง แข็งแรง ไม่เหนื่อยง่ายและฟื้นตัวเร็วป้องกันเลือด ออกในสมอง,ลิ่มเลือด, โรคหัวใจขาดเลือด และหอบหืด
  •    สาร Cordyceps (Fungal) Sterol ช่วยป้องกันไตอักเสบเรื้อรัง บำรุงไต, ป้องกันโรค Lupus erythematosus ป้องกันโรคหอบหืด,เพิ่มประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจ
  •    สาร Adenosine ช่วยต้านการแข็งตัวของเลือด ต้านการเกิดลิ่มเลือดในร่างกาย ลดโอกาสการอุดตันของเส้นเลือด
  •    สาร Polysaccharides เพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โคเลสเตอรอล และ ไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันในเลือด) และมีความน่าจะเป็นในการช่วยลดการโตของเนื้องอกและเซลล์มะเร็งอีกด้วย

 

จึงทำให้ปัจจุบันนี้ มีผู้นิยมรับประทาน ถั่งเช่า กันมายิ่งขึ้น  เพราะการรับประทาน ถั่งเช่า เป็นประจำ ก็จะช่วยปรับสมดุลร่างกายให้ดีขึ้น แข็งแรง ไม่เหนื่อยง่าย พร้อมป้องกันโรคกลุ่มโรค NCDs ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย